บอร์ด EGCO Group ไฟเขียวจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี 2567 หุ้นละ 3.25 บาท สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ถือหุ้นต่อแนวทางการดำเนินธุรกิจ
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2567 หุ้นละ 3.25 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 6.1% ซึ่งสะท้อนสภาพคล่อง สถานะทางการเงิน และพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ถือหุ้นต่อแนวทางการดำเนินธุรกิจและศักยภาพการลงทุนของ EGCO Group ในอนาคต
ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group กล่าวว่า “จากพื้นฐานธุรกิจที่มั่นคง ด้วย Portfolio ที่มีการกระจายการลงทุนที่หลากหลาย มีสภาพคล่องทางการเงิน และมีกระแสเงินสดสำหรับการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ทำให้ EGCO Group มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 3.25 บาท ซึ่งมีอัตราเทียบเท่ากับเงินปันผลระหว่างกาลในปีที่ผ่านมา โดยคิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 6.1% และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 กันยายน 2567 EGCO Group ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่องเพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง”
ความสามารถในการรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าว มาจากผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 ที่ EGCO Group รับรู้รายได้รวม 22,871 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงานรวม 3,410 ล้านบาท โดยปัจจัยบวกมาจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ในขณะที่มีกำไรสุทธิ 3,055 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งกว่า 34,000 ล้านบาท
ภาพรวมการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2567 EGCO Group ยังคงสามารถบริหารจัดการ Portfolio โรงไฟฟ้าและต้นทุนเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทายมากขึ้น รวมทั้งสามารถบริหารจัดการโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน ซึ่งจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน Yunlin ได้ติดตั้งเสากังหันลม (Monopiles) ครบ 80 ต้น เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ได้ติดตั้งกังหันลม (Wind Turbine Generators - WTGs) แล้วเสร็จ 70 ต้น และก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว 51 ต้น มั่นใจการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์สิ้นปีนี้ ซึ่งจะสร้างรายได้และเสริมความแข็งแกร่งของกระแสเงินสดให้ EGCO Group อย่างต่อเนื่อง
“EGCO Group ยังคงยึดมั่นในนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ในฐานะหุ้นปันผล (Dividend Stock) ที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง บนรากฐานการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่แข็งแกร่งมากว่า 32 ปี EGCO Group ยังคงขับเคลื่อนการเติบโตภายใต้กลยุทธ์ “4S” ที่มุ่งเน้นลงทุน ในรูปแบบ M&A ในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน รวมถึงธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องที่เป็นสินทรัพย์คุณภาพสูง มีผลตอบแทนดี และสามารถรับรู้รายได้อย่างรวดเร็ว ควบคู่การบริหารจัดการความเสี่ยงในทุกมิติ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทายมากขึ้นในปัจจุบัน เพื่อสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน” ดร.จิราพร กล่าวสรุป
เกี่ยวกับ EGCO Group
ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2567 EGCO Group มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,993 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,437 เมกะวัตต์ (คิดเป็น 21% ของกำลังผลิตทั้งหมด) ทั้งจากชีวมวล พลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมทั้งบนบกและนอกชายฝั่ง เซลล์เชื้อเพลิง และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ตั้งอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ บริษัท เอ็กโก เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด “ESCO” ให้บริการงานเดินเครื่อง บำรุงรักษา วิศวกรรม ก่อสร้าง อนุรักษ์พลังงาน และการฝึกอบรมแก่โรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ บริษัทโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค “CDI” ในอินโดนีเซีย ระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “TPN” โครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง “ERIE” บริษัทด้านการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรม “Innopower” และบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน “Peer Power” ทั้งนี้ EGCO Group ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) มา 4 ปีต่อเนื่อง (2563-2566)