เอ็กโก กรุ๊ป คิกออฟ “คลังน้ำมันขอนแก่น” ภายใต้การดำเนินงานของ “ทีพีเอ็น” เสริมทัพธุรกิจเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป โดยบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเอ็กโก กรุ๊ป และ บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดให้บริการ “คลังน้ำมันขอนแก่น” ภายใต้โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “ทีพีเอ็น” อย่างเป็นทางการ โดยได้จัดพิธีต้อนรับรถบรรทุกน้ำมันคันแรกของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้าสู่คลังน้ำมันขอนแก่น เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 ซึ่งมีนางสาวอรทิพา มงคลสวัสดิ์ (ขวาสุด) ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการ และนายณัชพน มนูพรประภา (ซ้ายสุด) ผู้จัดการส่วนบริหารโครงการ 2 เอ็กโก กรุ๊ป เป็นผู้แทนบริษัทฯ ร่วมเป็นสักขีพยานและแสดงความยินดี
การเปิดให้บริการคลังน้ำมันดังกล่าว นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์การแตกไลน์ธุรกิจของเอ็กโก กรุ๊ป จากการผลิตไฟฟ้าไปยังธุรกิจเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง โดยจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งเชิงยุทธศาสตร์ให้แก่เอ็กโก กรุ๊ป ในการก้าวสู่การเป็นผู้ดำเนินธุรกิจพลังงานครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตลอดจนช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความสมดุลของพอร์ตโฟลิโอของเอ็กโก กรุ๊ป
สำหรับคลังน้ำมันขอนแก่นเป็นคลังน้ำมันแห่งใหม่ ที่มีความทันสมัยและมีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น บนพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ มีความจุถังน้ำมันรวม 157 ล้านลิตร จึงเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ค้าน้ำมันในการช่วยกักเก็บและบริหารการขนส่งน้ำมัน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ คลังน้ำมันขอนแก่นยังเชื่อมต่อและเป็นส่วนหนึ่งของโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “ทีพีเอ็น” จังหวัดสระบุรี-จังหวัดขอนแก่น ที่มีเส้นทางผ่าน 55 ตำบล 18 อำเภอ 5 จังหวัด ระยะทางรวม 342 กิโลเมตร มีกำลังการขนส่งน้ำมันทางท่ออยู่ที่ 5,443 ล้านลิตรต่อปี และสามารถขยายกำลังการขนส่งเพิ่มเป็นสูงสุด 7,330 ล้านลิตรต่อปี หากความต้องการน้ำมันในภาคขนส่งเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโครงการฯ คือบริษัทค้าน้ำมันทั้งในประเทศไทยและใน สปป.ลาว
เมื่อโครงการ “ทีพีเอ็น” เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ทั้งเครือข่ายในเร็ว ๆ นี้ จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งน้ำมันมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลดปัญหาการจราจรและอุบัติเหตุบนท้องถนน ตลอดจนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 80,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี หรือเปรียบเทียบได้กับการปลูกป่ามากถึง 67,000 ไร่ ซึ่งช่วยสนับสนุนเป้าหมายของสังคมโลกที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในขณะเดียวกัน บริษัทน้ำมันที่เป็นผู้ใช้บริการท่อขนส่งน้ำมันและคลังน้ำมัน “ทีพีเอ็น” ยังสามารถนำตัวเลขการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปคำนวณเป็นคาร์บอนเครดิตของตนเองได้อีกด้วย