เอ็กโก กรุ๊ป คว้าอันดับ Silver Class และติดอันดับ Top 10 ของโลก ประเภทสาธารณูปโภคไฟฟ้า จากเวที S&P Global Sustainability Award

ข่าวสารและความเคลื่อนไหว

เอ็กโก กรุ๊ป คว้าอันดับ Silver Class และติดอันดับ Top 10 ของโลก ประเภทสาธารณูปโภคไฟฟ้า จากเวที S&P Global Sustainability Award

11 กุมภาพันธ์ 2565

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ขึ้นแท่นด้านความยั่งยืนระดับโลก คว้าอันดับ Silver Class และติดอันดับ Top 10 ของโลก ประเภทสาธารณูปโภคไฟฟ้า (Electric Utilities) จากเวที S&P Global Sustainability Award และได้รับคัดเลือกให้อยู่ใน Sustainability Yearbook 2022 จากการประเมินของ S&P Global สะท้อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามแนวทางสากลมาอย่างต่อเนื่องตลอด 30 ปี ในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่รายแรกของประเทศไทย

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า “เอ็กโก กรุ๊ป รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการยอมรับในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนระดับสากล จากการประเมินและจัดอันดับของ S&P Global ในเวที S&P Global Sustainability Award และ Sustainability Yearbook 2022 ซึ่งบริษัท  เข้ารับการประเมินเป็นปีที่ 2 โดยในปีนี้บริษัทได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Silver Class และติดอันดับ 1 ใน 10 บริษัทของโลก ประเภทสาธารณูปโภคไฟฟ้า ซึ่งเป็นการปรับระดับขึ้นมาจาก Bronze Class ในปีที่แล้ว ความสำเร็จดังกล่าวนี้เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่องอย่างมุ่งมั่นตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับสากล ด้วยการยึดถือหลัก ESG (Environmental, Social, and Governance) เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับผู้มีส่วนได้เสียมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 30 ปี”

ท่ามกลางความท้าทายของอุตสาหกรรมพลังงานและไฟฟ้าทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ เอ็กโก กรุ๊ป ได้กำหนดทิศทางในการดำเนินธุรกิจที่ว่า “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน โดยเดินหน้าต่อยอดธุรกิจไฟฟ้า โดยเฉพาะการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด ในขณะเดียวกัน ได้เร่งขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนยังมุ่งเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อให้สอดรับกับทิศทางพลังงานโลกและแผนพลังงานชาติ โดยตั้งเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2593 และเป้าหมายลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ (Carbon Emission Intensity) 10% ภายในปี 2573

ทั้งนี้ S&P Global ใช้กรอบ ESG ในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลกิจการและเศรษฐกิจ สำหรับประเมินและคัดเลือกองค์กรจากทั่วโลกเป็นสมาชิกในรายงาน Sustainability Yearbook และมอบรางวัล S&P Global Sustainability Award เป็นประจำปีทุกปี เพื่อยกย่ององค์กรที่มีความโดดเด่นด้านความยั่งยืนในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมระดับโลก สำหรับการจัดทำ Sustainability Yearbook 2022 มีองค์กรทั่วโลก เข้ารับการประเมินทั้งสิ้น 7,554 แห่ง และมีเพียง 716 บริษัทจาก 61 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับการคัดเลือกจัดอันดับในรายงานฉบับนี้ ซึ่งผลการประเมินเป็นการเรียงลำดับตาม Percentile โดยองค์กรที่อยู่ใน 15% แรกของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมจะถูกจัดรายชื่อให้อยู่ในรายงานฉบับนี้