เอ็กโก กรุ๊ป จัดประชุม E-AGM ประจำปี 2564 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวอนุมัติเงินปันผลงวดครึ่งปีหลัง 3.50 บาทต่อหุ้น

ข่าวสารและความเคลื่อนไหว

เอ็กโก กรุ๊ป จัดประชุม E-AGM ประจำปี 2564 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวอนุมัติเงินปันผลงวดครึ่งปีหลัง 3.50 บาทต่อหุ้น

22 เมษายน 2564

เอ็กโก กรุ๊ป จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) เพื่อให้ผู้ถือหุ้นรับทราบการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและติดตามการบริหารจัดการของคณะกรรมการและฝ่ายบริหาร เมื่อวันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2564 เวลา 14.00 น. ภายใต้มาตรการที่สอดคล้องกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 

โดยที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวได้พิจารณาและมีมติในแต่ละระเบียบวาระต่างๆ ซึ่งสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ ผู้ถือหุ้นรับทราบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 3 บาท และอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังของปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 3.50 บาท เป็นจำนวนเงิน รวม 1,843 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 เมษายน 2564 รวมเป็นเงินปันผลจากผลการดำเนินงานของปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 6.50 บาท คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,422 ล้านบาท

สืบเนื่องจากการตอบคำถามผู้ถือหุ้นในที่ประชุมเรื่องทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ นายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานคณะกรรมการ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวว่า “เอ็กโก กรุ๊ป ได้จับมือกับ กฟผ. และราช กรุ๊ป จัดตั้งบริษัทร่วมทุน EGAT Innovation Holding เพื่อลงทุนในธุรกิจใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาต่อยอดผลงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของกลุ่ม กฟผ.ในเชิงพาณิชย์ และลงทุนในธุรกิจพลังงานเพื่ออนาคต เช่น สมาร์ทกริด นวัตกรรมที่รองรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เช่น ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System - ESS) และแบตเตอรี่ การพัฒนาสถานีไฟฟ้าและระบบส่งเพื่อรองรับการเข้ามาของพลังงานหมุนเวียน 
เป็นต้น”

ทั้งนี้ การส่งเสริมรถยนต์ EV ถือเป็นนโยบายแห่งชาติ หลังจากภาครัฐจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 2578 รถเครื่องยนต์สันดาปจะต้องเปลี่ยนเป็นรถ EV 100% ซึ่งจะส่งผลให้แบตเตอรี่ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนรถยนต์ EV มีความต้องการมากขึ้น และปัจจุบันแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนมีแนวโน้มราคาถูกลง และมีความต้องการใช้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสของเอ็กโก กรุ๊ป ดังนั้น บริษัทร่วมทุน EGAT Innovation Holding ก็จะศึกษาโอกาสในเรื่องนี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการแสวงหาพันธมิตรร่วมลงทุน ร่วมถึงเรื่องของสมาร์ดกริดและสมาร์ทมิเตอร์ ซึ่งจะเห็นการลงทุนตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป

“ในขณะเดียวกัน เอ็กโก กรุ๊ป ยังมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น โดยมองโอกาสเข้าร่วมลงทุนในโครงการใหม่ เช่น โซลาร์ฟาร์ม และพลังงานลมในทะเล ซึ่งได้เข้าไปลงทุนในไต้หวันแล้ว อีกทั้งโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก บริษัทก็ศึกษาโอกาสเข้าไปร่วมลงทุนด้วย เพื่อผลักดันให้บริษัทมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 25% ของกำลังผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมด ภายในปี 2573 และอีก 75% จะเป็นกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน conventional และธุรกิจใหม่” นายกุลิศ กล่าวสรุป