เอ็กโก กรุ๊ป เดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ประกาศเป้าหมายความเป้นกลางทางคาร์บอน ในปี 2050

ข่าวสารและความเคลื่อนไหว

เอ็กโก กรุ๊ป เดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ประกาศเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี 2050

30 สิงหาคม 2564

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ขับเคลื่อนธุรกิจสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สอดรับกับทิศทางพลังงานโลกและแผนพลังงานชาติ โดยประกาศเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2050 พร้อมตั้งเป้าหมายระยะกลางลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ (Carbon Emission Intensity) 10% ภายในปี 2030

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป ตระหนักดีว่าธุรกิจผลิตไฟฟ้าและพลังงานมีส่วนสำคัญในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ผ่านมาเอ็กโก กรุ๊ป ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทางในการทำธุรกิจ เพราะเรามีความเชื่อเรื่อง “ต้นทางดี จะก่อกำเนิดผลลัพธ์ปลายทางดี” ไม่ว่าจะเป็นการกระจายเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าให้สมดุลเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงาน การเพิ่มการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่องทุกปี และการก่อตั้งมูลนิธิไทยรักษ์ป่า เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำสำคัญของประเทศมานานกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มของทิศทางพลังงานโลกในปัจจุบันและแผนพลังงานแห่งชาติของประเทศไทย ที่มุ่งสู่พลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2065-2070 นั้น เอ็กโก กรุ๊ป จึงได้ปรับการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับทิศทางดังกล่าว

“เอ็กโก กรุ๊ป ได้กำหนดเป้าหมายใหม่ในการมุ่งสู่ความเป้นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 และตั้งเป้าหมายระยะกลางในปี 2030 โดยมุ่งลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ลง 10% จากระดับปี 2020 ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวนี้เป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของเราในการเป็น “บริษัทไทยชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน ด้วยความใส่ใจที่จะธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม” ด้วย

การขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ให้บรรลุผลสำเร็จ เอ็กโก กรุ๊ป จึงได้กำหนดทิศทางในการดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน คือ “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” โดย Cleaner ก็คือการลงทุนในธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด  เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน ในขณะที่ Smarter เป็นการสร้างความมั่นคงในระบบไฟฟ้าและการลงทุนในธุรกิจที่มีการเติบโตสูง (New S-Curve) เพื่อให้ทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (Digital Disruption) และสุดท้าย Stronger การสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นด้วยการหาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน

สำหรับทิศทางนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ก็จะดำเนินการภายใต้แผนกลยุทธ์ 4I ซึ่งครอบคลุมการดำเนินงานอย่างรอบด้าน ประกอบด้วย Invest ลงทุนในสินทรัพย์ที่เติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว มุ่งเน้นธุรกิจรูปแบบใหม่และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน แอลเอ็นจี และ New S-Curve เป็นต้น Increase เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านการเงิน Improve ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน (Operation performance) และบริหารสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้มีความเป็นเลิศในระดับสากล และ Innovate ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมและสร้างกระบวนการทำงานอย่างยั่งยืน ให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

เกี่ยวกับ เอ็กโก กรุ๊ป
ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,016 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว 29 แห่ง คิดเป็นกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 5,695 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 321 เมกะวัตต์ โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนสูงถึง 1,364 เมกะวัตต์ ทั้งจากชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ และเซลล์เชื้อเพลิง 

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ตั้งอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง ตลอดจนยังได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย