เอ็กโก กรุ๊ป เดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ประกาศเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี 2050
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ขับเคลื่อนธุรกิจสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สอดรับกับทิศทางพลังงานโลกและแผนพลังงานชาติ โดยประกาศเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2050 พร้อมตั้งเป้าหมายระยะกลางลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ (Carbon Emission Intensity) 10% ภายในปี 2030
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป ตระหนักดีว่าธุรกิจผลิตไฟฟ้าและพลังงานมีส่วนสำคัญในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ผ่านมาเอ็กโก กรุ๊ป ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทางในการทำธุรกิจ เพราะเรามีความเชื่อเรื่อง “ต้นทางดี จะก่อกำเนิดผลลัพธ์ปลายทางดี” ไม่ว่าจะเป็นการกระจายเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าให้สมดุลเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงาน การเพิ่มการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่องทุกปี และการก่อตั้งมูลนิธิไทยรักษ์ป่า เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำสำคัญของประเทศมานานกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มของทิศทางพลังงานโลกในปัจจุบันและแผนพลังงานแห่งชาติของประเทศไทย ที่มุ่งสู่พลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2065-2070 นั้น เอ็กโก กรุ๊ป จึงได้ปรับการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับทิศทางดังกล่าว
“เอ็กโก กรุ๊ป ได้กำหนดเป้าหมายใหม่ในการมุ่งสู่ความเป้นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 และตั้งเป้าหมายระยะกลางในปี 2030 โดยมุ่งลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ลง 10% จากระดับปี 2020 ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวนี้เป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของเราในการเป็น “บริษัทไทยชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน ด้วยความใส่ใจที่จะธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม” ด้วย
การขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ให้บรรลุผลสำเร็จ เอ็กโก กรุ๊ป จึงได้กำหนดทิศทางในการดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน คือ “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” โดย Cleaner ก็คือการลงทุนในธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน ในขณะที่ Smarter เป็นการสร้างความมั่นคงในระบบไฟฟ้าและการลงทุนในธุรกิจที่มีการเติบโตสูง (New S-Curve) เพื่อให้ทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (Digital Disruption) และสุดท้าย Stronger การสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นด้วยการหาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
สำหรับทิศทางนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ก็จะดำเนินการภายใต้แผนกลยุทธ์ 4I ซึ่งครอบคลุมการดำเนินงานอย่างรอบด้าน ประกอบด้วย Invest ลงทุนในสินทรัพย์ที่เติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว มุ่งเน้นธุรกิจรูปแบบใหม่และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน แอลเอ็นจี และ New S-Curve เป็นต้น Increase เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านการเงิน Improve ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน (Operation performance) และบริหารสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้มีความเป็นเลิศในระดับสากล และ Innovate ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมและสร้างกระบวนการทำงานอย่างยั่งยืน ให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
เกี่ยวกับ เอ็กโก กรุ๊ป
ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,016 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว 29 แห่ง คิดเป็นกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 5,695 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 321 เมกะวัตต์ โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนสูงถึง 1,364 เมกะวัตต์ ทั้งจากชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ และเซลล์เชื้อเพลิง
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ตั้งอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง ตลอดจนยังได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติในประเทศไทย