เอ็กโก กรุ๊ป เผยกำไรจากการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ปี 2562 กว่า 8,000 ล้านบาท
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2562 ยังคงเติบโตและมีความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ ในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 เติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นไปตามแผนงาน โดยมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ ก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า จำนวน 8,073 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1,060 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15 หากพิจารณาเฉพาะผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของปี 2562 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 บริษัทฯ มีกำไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และการรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า จำนวน 2,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 15 ล้านบาท”
ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2562 จนถึงปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีความก้าวหน้าในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ 2 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูรา ประเทศฟิลิปปินส์ ได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2562 และโรงไฟฟ้าไซยะบุรี สปป.ลาว ได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 ซึ่งโรงไฟฟ้าซานบัวนาเวนทูราเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 และโรงไฟฟ้าไซยะบุรีจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป สำหรับความสำเร็จด้านการลงทุนใหม่ เอ็กโก กรุ๊ป ได้ลงทุนสัดส่วนร้อยละ 44.6 ในบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด เพื่อดำเนินโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้ลงนามในสัญญาผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาจัดหาเงินกู้ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ปี 2563 ในขณะที่การก่อสร้างมีความก้าวหน้า ประมาณร้อยละ 19
ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง “กังดง” ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4 ปี 2563 และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ “น้ำเทิน 1” ใน สปป.ลาว ซึ่งคาดว่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปี 2565 นอกจากนี้ยังมีโครงการที่เป็นธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ ธุรกิจให้บริการขนส่งน้ำมันโดยระบบขนส่งทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 4 ปี 2564
“ล่าสุด เอ็กโก กรุ๊ป ยังได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้เป็น 1 ใน 98 บริษัทจดทะเบียน ที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) ประจำปี 2562 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ในประเภทกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร สะท้อนให้เห็นว่าเอ็กโก กรุ๊ป ตระหนักและให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างการเติบโตและเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น ควบคู่กับการใส่ใจดูแลชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance - ESG)” นายจักษ์กริช กล่าวสรุป
เกี่ยวกับเอ็กโก กรุ๊ป
ณ 31 ตุลาคม 2562 เอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 28 แห่ง คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 5,475 เมกะวัตต์ ใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ มีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 2 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 171 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงหลากหลายประเภท ทั้งก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ และเซลล์เชื้อเพลิง