เอ็กโก กรุ๊ป เผยกำไร 9 เดือนแรก ปี 2561 กว่า 2.1 หมื่นล้านบาท พร้อมประกาศการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 1,823 เมกะวัตต์ ในเกาหลีใต้
เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ปี 2561 มีกำไรสุทธิ จำนวน 21,754 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 117 พร้อมประกาศเข้าลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 49 ในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ขนาดกำลังการผลิต 1,823 เมกะวัตต์ เป็นการเปิดตลาดใหม่ในธุรกิจไฟฟ้าในประเทศเกาหลีใต้
นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ปี 2561 ว่า “การดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกยังคงเป็นไปตามแผนงาน โดยมีกำไรสุทธิ จำนวน 21,754 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 11,744 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 117 จากการขายสินทรัพย์ 3 โครงการในไตรมาสแรก และหากพิจารณาเฉพาะผลการดำเนินงาน ในไตรมาส 3 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ จำนวน 3,947 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 430 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12 โดยมีสาเหตุหลักจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน”
ในขณะเดียวกัน เอ็กโก กรุ๊ป ได้ประกาศขยายการลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยการเข้าลงทุนสัดส่วนร้อยละ 49 ในบริษัท พาจู เอ็นเนอร์ยี่ เซอร์วิส จำกัด หรือ พาจู อีเอส ซึ่งเป็นเจ้าของและดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้า พลังความร้อนร่วมพาจู ที่เมืองพาจู จังหวัดคย็องกี ประเทศเกาหลีใต้ จำนวน 2 หน่วย ขนาดกำลังการผลิต หน่วยละ 911.5 เมกะวัตต์ ใช้แอลเอ็นจีนำเข้าเป็นเชื้อเพลิง โดยจะมีการลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 มูลค่าการลงทุน ประมาณ 26,200 ล้านบาท และคาดว่าการซื้อขายหุ้นจะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม ปี 2562 ทั้งนี้ พาจู อีเอส เป็นบริษัทลูกของบริษัท เอสเค อีแอนด์เอส จำกัด หรือ เอสเค อีแอนด์เอส ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจพลังงานรายแรกที่นำเข้าแอลเอ็นจีโดยตรงจากต่างประเทศสู่เกาหลี ทั้งจากออสเตรเลีย อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา ตลอดจนประเทศต่างๆ ทั่วโลก
โรงไฟฟ้าพาจู อีเอส เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2560 และจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ Korea Electric Power Corporation ซึ่งเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้ารายเดียวในเกาหลีใต้ โดยซื้อขายผ่านตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้าของประเทศเกาหลีใต้ (Korea Power Exchange)
“ตลาดพลังงานในประเทศเกาหลีใต้เป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเกาหลีใต้เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญและส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงแอลเอ็นจี และพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสะอาด การเข้าลงทุนครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญของเอ็กโก กรุ๊ป โดยเรามองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ในการผสานจุดแข็งกับเอสเค อีแอนด์เอส เพื่อลงทุนและพัฒนาธุรกิจแอลเอ็นจีร่วมกันทั้งในประเทศไทยและในเอเชีย ซึ่งมีความต้องการใช้ก๊าซในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่เชื่อถือได้
นอกจากนี้ เอสเค อีแอนด์เอส ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจแอลเอ็นจีครบวงจร การลงทุนในพาจู อีเอส จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการนำไปสู่ความร่วมมือในการทำธุรกิจแอลเอ็นจีในประเทศไทย รวมทั้งประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค และในอนาคตเราจะร่วมกันแสวงหาโอกาสการลงทุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ ทั้งในเกาหลีและในเอเชียอีกด้วย” นายจักษ์กริชกล่าวเพิ่มเติม
เกี่ยวกับเอ็กโก กรุ๊ป
ณ 31 ตุลาคม 2561 เอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 26 แห่ง คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้น 4,260 เมกะวัตต์ ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย มีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 3 โครงการ คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 544 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงหลากหลายประเภท ทั้งก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานความร้อนใต้พิภพ