เอ็กโก กรุ๊ป ประกาศกำไรไตรมาสแรกโตกว่า 2.9 พันล้านบาท โรงไฟฟ้า SPP แห่งใหม่ คาดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟเข้าระบบมิถุนายนนี้
นายชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2560 ว่า “เอ็กโก กรุ๊ป เติบโตต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิ จำนวน 2,963 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 373 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 เอ็กโก กรุ๊ป มีความก้าวหน้าของการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทร่วมทุนระหว่างเอ็กโก กรุ๊ป กลุ่มบริษัท สตาร์ เอนเนอร์ยี่ และกลุ่มบริษัทเอซี เอนเนอร์ยี่ ได้โอนหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ “ซาลัก” และ “ดาราจัท” ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 402 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิต ไอน้ำรวมทั้งสิ้น 235 เมกะวัตต์ (เทียบเท่า) ในประเทศอินโดนีเซีย จากบริษัทในเครือของเชฟรอนแล้วเสร็จ ซึ่งสัดส่วนการลงทุนของเอ็กโก กรุ๊ป คิดเป็นร้อยละ 20.07 ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว ทำให้รับรู้รายได้ทันที
“ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างทั้งในและต่างประเทศ 6 โครงการ ได้แก่ โครงการ SPP ในประเทศ 3 โครงการ โรงไฟฟ้า“ไซยะบุรี” ใน สปป.ลาว โรงไฟฟ้า “ซานบัวนาเวนทูรา” และโรงไฟฟ้า “มาซินลอค หน่วยที่ 3” ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในปี 2562 โดยโครงการส่วนใหญ่มีความก้าวหน้าตามแผนงานที่วางไว้ ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าคลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าประเภท SPP กำลังการผลิต 102 เมกะวัตต์ จะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าดังกล่าว” นายชนินทร์กล่าว
สำหรับความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในต่างประเทศ 4 โครงการ ได้แก่ สปป.ลาว 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ “ปากแบง” อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำเทิน 1” อัยการสูงสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) หลังจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ “สตาร์ เอนเนอร์ยี่ ส่วนขยาย (หน่วยที่ 3 และ 4)” อยู่ระหว่างการเจรจาค่าไฟฟ้ากับการไฟฟ้าอินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าถ่านหิน “กวางจิ” อยู่ระหว่างการเจรจาค่าไฟฟ้าและสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าเวียดนาม และเจรจาสัญญาหลักต่างๆ เช่น สัญญาสัมปทานสัญญาการรับประกันจากรัฐบาล ฯลฯ กับรัฐบาลเวียดนาม
เกี่ยวกับเอ็กโก กรุ๊ป
ณ เดือนเมษายน 2560 เอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 26 แห่ง คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 4,250 เมกะวัตต์ ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย และมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 6 โครงการ คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 852 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงหลากหลายประเภท ทั้งก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ชีวมวล ขยะ พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานความร้อนใต้พิภพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน