เอ็กโก กรุ๊ป ประกาศกำไรจากการดำเนินงาน 9 เดือนแรก กว่า 7,000 ล้านบาท เผยวินด์ฟาร์มแห่งใหม่พร้อมจ่ายไฟเข้าระบบปลายปีนี้
นายชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 จนถึงปัจจุบันว่า “ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 เติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องมาจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าขนอม หน่วยที่ 4 และโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ การเติบโตดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเอ็กโก กรุ๊ป สามารถบริหารจัดการโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ให้เดินเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งมีการติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทต่างๆ ที่เข้าไปร่วมทุนอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนดและงบประมาณที่วางไว้ โดยโรงไฟฟ้าพลังงานลมแห่งใหม่ “ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม” กำลังการผลิต 80 เมกะวัตต์ จะก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเดือนธันวาคมนี้”
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของปี 2559 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี การรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่าและสัญญาสัมปทาน และการด้อยค่าของสินทรัพย์ จำนวน 2,781 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 119 ล้านบาท ในขณะที่ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2559 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี การรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่าและสัญญาสัมปทาน และการด้อยค่าของสินทรัพย์ จำนวน 7,080 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 519 ล้านบาท
ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างทั้งในและต่างประเทศรวม 7 โครงการ ซึ่งจะทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตั้งแต่ปลายปี 2559 ถึงปี 2562 นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในต่างประเทศอีก 6 โครงการ ได้แก่ สปป.ลาว มี 2 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “ปากแบง” กำลังการผลิต 912 เมกะวัตต์ ซึ่ง สปป.ลาว ได้ทำเรื่องแจ้งคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงอย่างเป็นทางการ เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป และ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำเทิน 1” กำลังการผลิต 650 เมกะวัตต์ อินโดนีเซีย มี 2 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ “สตาร์ เอนเนอร์ยี่ ส่วนขยาย” กำลังการผลิต 120 เมกะวัตต์ และ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพของเชฟรอน ซึ่งบริษัทสนใจจะเข้าร่วมประมูล เวียดนาม มี 1 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน “กวางจิ” กำลังการผลิต 1,220 เมกะวัตต์ และเมียนมา มี 1 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมทวาย สำหรับในประเทศไทย บริษัทฯ ยังแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าเช่นกัน เช่น โครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
“นอกจากนี้ ล่าสุดเอ็กโก กรุ๊ป ยังได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เป็น 1 ใน 55 บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment - THSI) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการคัดเลือกต้องมีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance - ESG) และมีคะแนนอย่างน้อยกึ่งหนึ่งในมิติเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม ซึ่งในปีนี้มีการพิจารณาเพิ่มเติมเรื่องผลประกอบการ และการคัดกรองด้านการกำกับดูแลต่างๆ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุนด้วย” นายชนินทร์ กล่าวสรุป
เกี่ยวกับเอ็กโก กรุ๊ป
ณ เดือนตุลาคม 2559 เอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 23 โรง คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 4,049 เมกะวัตต์ ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 7 โครงการ คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 941 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงหลากหลายประเภท ทั้งก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ชีวมวล ขยะ พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานความร้อนใต้พิภพ